อิชั้นบ้าไปแล้วค่ะบ่องตง เพราะหลังจากอ่าน The Madness of Lord Ian McKenzie และ The Duke perfect wife by Jenifer Ashley จบไปแบบรวดเดียว สมองและจิตรใจอิชั้นก็ไขว้เขวเตลิดเปิดเปิง ไม่สามารถรวมรวมลมปรานให้คอนเซ็นเทรดอยู่กับหนังสือเพียงแค่เล่มเดียวได้อีกต่อไป ดังนั้น สมองตอนนี้จึงแยกออกเป็นส่วนๆดังนี้
ส่วนแรก Vision in White by Nora Robert หลงเพริดไปกับความเนิร์ดของคาร์เตอร์ แมคไกวร์ และเหล่าเวดดิ้งแพลนเนอร์คนส่วย แอบเอาใจช่วยไปกับนางเอก แอบจินตนาการแต่ละภาพที่นางแชะรูป เห้อ อ่านยังไม่ทันจบก็แอบวางไว้ข้างหัวเตียง (ตามประสานิยายสนุกอ่านแล้วติด กลัวอ่านๆไปแล้วจะจบเร็ว ทำใจไม่ได้) หันไปแยกจิตรออกเป็นอีกส่วน
ส่วนที่สอง การ์ตูนเรื่องคินดะอิจิ ซัดรวดเล่มหนึ่งถึงเจ็ด ไม่ใช่ไม่เคยอ่าน แต่เป็นขุดมาอ่านรอบที่ล้านแปด อ่านกี่ทีก็สยอง ไม่ใช่วาดรูปศพหรือการฆาตกรรมน่ากลัวไปนะ แต่เพราะจินตนาการของเราสามารถเอามันไปเติมแต่งได้น่ากลัวกว่า เวลาอ่านต้องบิ้วด้วยการปิดไฟมืด เปิดเฉพาะตรงที่อ่านพอ แสงสลัวๆ มองไปเห็นแต่ความมืดมิด ทำให้ไม่แน่ใจว่ามีใครมายืนเงื้ออาวุธหมายจะทำร้ายเราอยู่ในเงามืดหรือเปล่า เห้อ ฝันร้ายแน่ๆ คั่นวางไว้ข้างหัวเตียง แยกจิตเป็นอีกส่วน
ส่วนที่สาม การ์ตูนเรื่องพ่อหนุ่มนินจาข้ามเวลามารักกัน พี่สาวเพิ่งซื้อมาตามประสาอยากย้อนวัยเป็นวัยละอ่อน อ่านแต่การ์ตูนตาหวาน สิบเล่มยังไม่จบ เราเลยอ่านห้าเล่มรวด เอิ่ม โดดทะเลสาบย้อนเวลากันเป็นว่าเล่น แต่ก็น่าสนใจ ลายเส้นสวย แอบสอดแทรกมุกตลก พระเอกหล่อน่ารักเว่อร์ อ๊ะ หูแอบได้ยินเสียงละครทีวีที่แม่เปิดไว้ ทำไมย่าอ่อนมันชอบสอดเรื่องหลานชายจังฟระ สมาธิแตกซ่าน หันซ้ายหันขวา คว้าอีกเรื่องขึ้นมาจนได้
ส่วนที่สี่ หนังสือบทโทรทัศน์เรื่องคุณชายรณพีร์ แบบเล่มบางๆยี่สิบห้าบาท เอิ่ม บ้านอิชั้นอุดหนุนทุกเรื่องที่มีขายนะคะขอบอก อ่านเพราะอยากรู้ว่าวิไลรัมภาจะร้ายได้ขนาดไหน ก็งั้นๆค่ะ แค่ใส่ยาพ้งยาพิษ ชั้นเคยอ่านร้ายกว่านี้บ่องตง เห้อะ เซงจริง หันไปวางหนังสือไว้ข้างเตียง หยิบแทบเล็ดขึ้นมาถูไถ สัญชาตญานดันไถลไปกดเชลฟ์ไลเบอร์รี่ เอาแล้วไง
ส่วนที่ห้า Rapture in Death by J.D Robb คุณนอร่าคะ อิชั้นผูกติดกระแสจิตรอยู่แต่งานเขียนคุณนี่แหละค่ะ โอ้ย แล้วอีฟกะโร้คจะรักกันแซ่บเว่อร์ไปไหมคะ อิชชี่ค่ะ ฮันนีมูนกันยันนอกโลก จะโชว์ว่าสามีหร่อนรวยอภิมหาเศรษฐีใช่มั๊ยยะ ฮืออออ อิจฉาที่สุดบ่องตง อ่านไปหน่อยนึงก็หนังตาหย่อน นอนดีกว่าพรุ่งนี้มาทำงาน
เช้ามาหัวหน้าบอกไหนอะกรีเม้นผมล่ะ ที่ให้ไปดราฟท์ เอิ่ม อิชั้นไม่ใช่ดิกชันน่ารี่นะคะหัวหน้า ขอเวลานิสนึง สัญญาเป็นร้อยหน้าภาษาต่างชาติ ทำสามวันไม่เสร็จหรอกคร่า แค่นี้ก็แยกจิตรจนจะเท่าลอร์ดโวลเดอมอร์ทำฮอครักซ์อยู่ละ ฮีทำหน้าเซ็งใส่แล้วโบกมือไปๆ ไปทำมา พี่ร่วมงานแอบทำหน้าส่งสารพร้อมส่งข้อความอวยพรมาว่า
“ทำอะไรควรทำให้จบเป็นอย่างๆไปนะหนูตูน ทำอะไรค้างๆคาๆ อ่านอะไรครึ่งๆกลางๆ ระวังแก่ตัวไปจะเป็นอัลไซเมอร์นะ”
กรี๊สสสสสสสสสสสสสส ตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนเริ่มเป็นละล่ะ แงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
แค่บ่นเฉยนะคะ อุอิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น