วันพุธที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2556

อ่านแอดดิกเต็ด

อิชั้นบ้าไปแล้วค่ะบ่องตง เพราะหลังจากอ่าน The Madness of Lord Ian McKenzie และ The Duke perfect wife by Jenifer Ashley จบไปแบบรวดเดียว สมองและจิตรใจอิชั้นก็ไขว้เขวเตลิดเปิดเปิง ไม่สามารถรวมรวมลมปรานให้คอนเซ็นเทรดอยู่กับหนังสือเพียงแค่เล่มเดียวได้อีกต่อไป ดังนั้น สมองตอนนี้จึงแยกออกเป็นส่วนๆดังนี้

ส่วนแรก Vision in White by Nora Robert หลงเพริดไปกับความเนิร์ดของคาร์เตอร์ แมคไกวร์ และเหล่าเวดดิ้งแพลนเนอร์คนส่วย แอบเอาใจช่วยไปกับนางเอก แอบจินตนาการแต่ละภาพที่นางแชะรูป เห้อ อ่านยังไม่ทันจบก็แอบวางไว้ข้างหัวเตียง (ตามประสานิยายสนุกอ่านแล้วติด กลัวอ่านๆไปแล้วจะจบเร็ว ทำใจไม่ได้) หันไปแยกจิตรออกเป็นอีกส่วน

ส่วนที่สอง การ์ตูนเรื่องคินดะอิจิ ซัดรวดเล่มหนึ่งถึงเจ็ด ไม่ใช่ไม่เคยอ่าน แต่เป็นขุดมาอ่านรอบที่ล้านแปด อ่านกี่ทีก็สยอง ไม่ใช่วาดรูปศพหรือการฆาตกรรมน่ากลัวไปนะ แต่เพราะจินตนาการของเราสามารถเอามันไปเติมแต่งได้น่ากลัวกว่า เวลาอ่านต้องบิ้วด้วยการปิดไฟมืด เปิดเฉพาะตรงที่อ่านพอ แสงสลัวๆ มองไปเห็นแต่ความมืดมิด ทำให้ไม่แน่ใจว่ามีใครมายืนเงื้ออาวุธหมายจะทำร้ายเราอยู่ในเงามืดหรือเปล่า เห้อ ฝันร้ายแน่ๆ คั่นวางไว้ข้างหัวเตียง แยกจิตเป็นอีกส่วน

ส่วนที่สาม การ์ตูนเรื่องพ่อหนุ่มนินจาข้ามเวลามารักกัน พี่สาวเพิ่งซื้อมาตามประสาอยากย้อนวัยเป็นวัยละอ่อน อ่านแต่การ์ตูนตาหวาน สิบเล่มยังไม่จบ เราเลยอ่านห้าเล่มรวด เอิ่ม โดดทะเลสาบย้อนเวลากันเป็นว่าเล่น แต่ก็น่าสนใจ ลายเส้นสวย แอบสอดแทรกมุกตลก พระเอกหล่อน่ารักเว่อร์ อ๊ะ หูแอบได้ยินเสียงละครทีวีที่แม่เปิดไว้ ทำไมย่าอ่อนมันชอบสอดเรื่องหลานชายจังฟระ สมาธิแตกซ่าน หันซ้ายหันขวา คว้าอีกเรื่องขึ้นมาจนได้

ส่วนที่สี่ หนังสือบทโทรทัศน์เรื่องคุณชายรณพีร์ แบบเล่มบางๆยี่สิบห้าบาท เอิ่ม บ้านอิชั้นอุดหนุนทุกเรื่องที่มีขายนะคะขอบอก อ่านเพราะอยากรู้ว่าวิไลรัมภาจะร้ายได้ขนาดไหน ก็งั้นๆค่ะ แค่ใส่ยาพ้งยาพิษ ชั้นเคยอ่านร้ายกว่านี้บ่องตง เห้อะ เซงจริง หันไปวางหนังสือไว้ข้างเตียง หยิบแทบเล็ดขึ้นมาถูไถ สัญชาตญานดันไถลไปกดเชลฟ์ไลเบอร์รี่ เอาแล้วไง

ส่วนที่ห้า Rapture in Death by J.D Robb คุณนอร่าคะ อิชั้นผูกติดกระแสจิตรอยู่แต่งานเขียนคุณนี่แหละค่ะ โอ้ย แล้วอีฟกะโร้คจะรักกันแซ่บเว่อร์ไปไหมคะ อิชชี่ค่ะ ฮันนีมูนกันยันนอกโลก จะโชว์ว่าสามีหร่อนรวยอภิมหาเศรษฐีใช่มั๊ยยะ ฮืออออ อิจฉาที่สุดบ่องตง อ่านไปหน่อยนึงก็หนังตาหย่อน นอนดีกว่าพรุ่งนี้มาทำงาน

เช้ามาหัวหน้าบอกไหนอะกรีเม้นผมล่ะ ที่ให้ไปดราฟท์ เอิ่ม อิชั้นไม่ใช่ดิกชันน่ารี่นะคะหัวหน้า ขอเวลานิสนึง สัญญาเป็นร้อยหน้าภาษาต่างชาติ ทำสามวันไม่เสร็จหรอกคร่า แค่นี้ก็แยกจิตรจนจะเท่าลอร์ดโวลเดอมอร์ทำฮอครักซ์อยู่ละ ฮีทำหน้าเซ็งใส่แล้วโบกมือไปๆ ไปทำมา พี่ร่วมงานแอบทำหน้าส่งสารพร้อมส่งข้อความอวยพรมาว่า

“ทำอะไรควรทำให้จบเป็นอย่างๆไปนะหนูตูน ทำอะไรค้างๆคาๆ อ่านอะไรครึ่งๆกลางๆ ระวังแก่ตัวไปจะเป็นอัลไซเมอร์นะ”

กรี๊สสสสสสสสสสสสสส ตอนนี้ก็รู้สึกเหมือนเริ่มเป็นละล่ะ แงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
แค่บ่นเฉยนะคะ อุอิ

Glory In Death by J.D Robb

เคยบอกแล้วไงว่าติด ฮืออออ

คำโปรย
It is 2058, New York City. In a world where technology can reveal the darkest of secrets, there's only one place to hide a crime of passion-in the heart.
Even in the mid-twenty-first century, during a time when genetic testing usually weeds out any violent hereditary traits before they can take over, murder still happens. The first victim is found lying on a sidewalk in the rain. The second is murdered in her own apartment building. Police Lieutenant Eve Dallas has no problem finding connections between the two crimes. Both victims were beautiful and highly successful women. Their glamorous lives and loves were the talk of the city. And their intimate relations with men of great power and wealth provide Eve with a long list of suspects-including her own lover, Roarke.

เล่มนี้พัฒนาการด้านด้านหัวใจระหว่าอีฟและโร้คก้าวกระโดดพรวดพราดมาก เหตุการณ์ในเรื่องเกิดหลังจากคดี DeBlass จบไปได้ไม่นาน ในขณะที่อีฟเริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนเนื่องจากเป็นผู้ปิดคดีช้อควงการ ทั้งยังเป็นคนรักของโร้ค ชายผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการธุรกิจ ดังนั้นเมื่อหล่อนเป็น Primary Detective ในคดีฆาตกรรมอัยการ Tower หล่อนจึงเป็นที่จับตามองของสื่อเป็นอย่างมาก

ปมฆาตกรรมเรื่องนี้ไม่อยากจะบอกว่าอิชั้นเดาตัวฆาตกรได้ตั้งก๊ะเหยื่อรายที่สองโดนเชือดแล้ว ตามประสาแฟนคลับCSI, NCIS และ ซีรี่ยส์สืบสวนทั้งหลายนั่นแหละ แต่ตูนว่าใครที่ดูหนังเยอะหน่อยและระลึกถึงชื่อหนังสือให้มากหน่อยก็จะเดาได้ทั้งนั้นแหละค่ะ

ส่วนเรื่องความสัมพันธุ์ของตัวเอก เล่มนี้อีฟต้องเผชิญความยุ่งยากใจเมื่อโร้คมอบเพชรเม็ดเท่าหัวแม่โป้งจากออสเตรเลียให้ สิ่งของมีราคาเหล่านี้หล่อนมองว่ามันเป็นเครื่องผูกพัน ภาระพันธนาการ เป็นทุกอย่างที่อีฟไม่อยากได้ แล้วโร้คก็ถึงขีดสุด เขายื่นเงื่อนไขให้อีฟ ถ้าหล่อนไม่มอบหัวใจทั้งดวงให้เขา เขาก็ไม่ต้องการอะไรเลย สองคนนี้เดินทางมาถึงจุดแตกหักเป็นครั้งแรกค่ะ ทั้งคู่ต่างใช้เวลาอยู่กับตัวเองซักพักใหญ่ อีฟเป็นหนักค่ะ คดีของหล่อนมาถึงทางตัน ปัญหาหัวใจไม่ได้รับการแก้ไข อีฟนอนไม่หลับ ฝันร้ายเดิมๆตามมาหลอกหลอน จนกระทั่งอีฟรู้ตัวว่าไม่สามารถกลับมาบ้านเพื่ออยู่คนเดียวได้อีกต่อไปแล้วนั่นแหละ หล่อนจึงใส่สร้อยเพชรเม็ดนั้นไปหาโร้คค่ะ >..< ตูนว่าฉากนี้เป็นฉากที่ทรงพลังมากที่สุดในเล่มนี้ อีฟข้ามขอบจำกัดหลายอย่างจนยอมรับว่ารัก แล้วโร้คก็แทบทรุดลงแทบเท้าหล่อน สารภาพแทบไม่ทันว่าเกือบแล้ว เขาเกือบจะทำทุกอย่างเพื่ออ้อนวอนไม่ให้อีฟทิ้งเขาไป โอ้ย พอเหอะ อิจฉาเว่ยเห้ย

แล้วก็ตามสเต็ปเทพค่ะ อีฟตามล่าคนร้ายจนเจอ มีการต่อสู้กันนิดหน่อย ฉากสุดท้ายเป็นอีกฉากที่ค่อนข้างกินใจค่ะ โร้คตามมาช่วยหล่อนอีกครั้ง คราวนี้ทั้งสองคนค่อยข้างสะบักสะบอม แล้วระหว่างที่โร้คหิ้วปีกอีฟที่กำลังเลือดโชคออกมาจากที่เกิดเหตุ เขาก็ขอหล่อนแต่งงาน !! ใช่ค่ะ อย่างที่โร้คว่าไว้ในประโยคสุดท้ายของเล่ม "Perfect timing" จริงๆ -..-
ตอนนี้ก็นั่งอ่านเล่มสาม Immortal in Death ไปตามระเบียบ

ดวงใจที่ใฝ่หา (Someone to Watch Over Me) Lisa Kleypas

เผื่อใครจะยังไม่รู้ ตูนเป็นแฟนพันธุ์แท้แบบเหนี่ยวแน่นสุดๆของลิซ่าค่ะ ชอบมาตั้งแต่ชุด Wallflower ในตำนาน ต่อกันด้วย Hathaway Series ขวนขวายมาอ่านยิ่งกว่าหนังสือเรียนซะอีก -..- (แม่ ภูมิใจในตัวหนูมั๊ยคะ?)
สำหรับชุด โบว์สตรีทนี้ยังไม่เคยอ่านค่ะ เห็นแก้วกานต์เอามาพิมพ์ใหม่รวดเดียวสามเล่มเราเลยแปะไว้ไปซื้อตอนงานหนังสือ พอสอยมาแล้วก็นอนรอนิ่งๆให้อุ่นใจอยู่ที่บ้านสักสองสามเดือน ไม่อยากอ่านค่ะ กลัวจบ ... ประหลาดแท้นิสัยชั้น
คำโปรย
หล่อนจำไม่ได้ว่าหล่อนเป็นใคร...

สาวน้อยคนหนึ่งรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาบนเตียงของคนแปลกหน้า
หลังจากถูกดึงร่างขึ้นมาจากแม่น้ำเทมส์อันเย็นเฉียบ ความทรงจำของหล่อนก็หายไปสิ้น
บัดนี้หล่อนอยู่ในความคุ้มครองและปกป้องของบุรุษผู้เป็นปริศนา ทว่าเปี่ยมเสน่ห์ นามว่าแกรนท์ มอร์แกน
เขายืนยันว่าหล่อนคือวิเวียน โรส ดูวัลล์ สาวงามที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ที่สุดในลอนดอน
แต่ในส่วนลึกของหัวใจ หล่อนรู้ว่าหล่อนไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น

ในฐานะชายหนุ่มซึ่งเป็นที่หมายปองที่สุด แกรนท์รู้จักผู้หญิงทุกประเภท
ผู้หญิงคนนี้ที่เขากอดไว้ในอ้อมแขนดูจะไร้เดียงสา
และเปราะบางเกินกว่าจะเป็นสุภาพสตรีอื้อฉาวที่เขาคิดว่าหล่อนเป็น
ด้วยความลุ่มหลงในความบริสุทธิ์อันเย้ายวนใจ
แกรนท์จะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะเปิดเผยความลับของอดีตที่หายไปของหล่อนได้
เพราะการไขปริศนานี้เท่านั้นที่จะทำให้เขาและหล่อนได้พบความสุขที่แท้จริงในความรัก...

อ่านจบแล้วรู้สึกดีค่ะ พระเอกที่ไม่มีบรรดาศักดิ์ของลิซ่ามักมีคาแรคเตอร์ที่น่าสนใจเสมอๆ (ดูอย่างดิเร็ค คราเวน สิ คึคึคึ) แกรนท์เป็นชายร่างยักษ์ที่ถีบตัวเองขึ้นจากเด็กกำพร้าร่างสูงเก้งก้าง มาเป็นสายสืบมือหนึ่งแห่งสำนักงานโบว์สตรีท เขาทำเงินได้มากมายจากการทำคดีตามของหายให้กับธนาคาร จนทำให้เกิดความอิจฉาจากเพื่อนร่วมงาน เขาเข้าได้กับทุกชนชั้น แต่ไม่ได้เป็นพวกใคร แกรนท์ฉลาด มีความสามารถ และเขาขึ้นตรงกับคนคนเดียวเท่านั้น เซอร์รอสส์ หัวหน้าใหญ่แห่งโบว์สตรีท ชายที่ทรงอิทธิพลอย่างยิ่งในประเทศ
เอิ่ม พระเอกเรื่องนี้ก็กรี๊ด หัวหน้าพระเอกก็กรี๊ดค่ะ แกรนท์ในเรื่องนี้ต่อสู้กับตัวเองค่ะ เพราะตอนที่เขาช่วยวิเวียน หรือมิสดูวัลล์สาวโสเภณีชั้นสูงขึ้นมาจากแม่น้ำแทมส์ เขาไม่คาดว่านิสัยหล่อนจะต่างกับที่เขาเคยคิดและสัมผัสอย่างผิวเผิน แน่นอนค่ะปฏิกิริยาเกิดขึ้นกับทั้งสองฝ่ายตลอดเรื่อง ลิซ่าเป็นคนที่เขียนเรื่องความดึงดูดทางร่างกายได้ดีค่ะ ต้องยอมเธอในจุดนี้จริงๆ
แต่จริงๆแล้วคนที่แกรนท์ช่วยขึ้นมาจากความตายไม่ใช่มิสดูวัลล์คนนั้น ใช่แล้วค่ะ หล่อนคือวิกตอเรีย ดีเวน ฝาแฝดของมิสดูวัลล์นั่นเอง แหม เดาได้ค่ะ บทแรกๆเลย ไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่ที่น่าสนใจคือเมื่อไหร่พระเอกนางเอกจะรู้สักที ไม่นานค่ะ สักค่อนเล่มเท่านั้นแกรนท์ก็รู้ เพราะวิเวียนคนนี้เป็นสาวบริสุทธิ์ อย่างทิ่วิเวียนตัวจริงไม่มีทางเป็นได้
ตูนว่าจุดที่ทำให้แกรนท์แลดูน่ารักก็คือ เมื่อเขารักวิกตอเรียแล้ว เขาไม่เหนี่ยวรั้งเลย เขาพูดความจริงไม่หลอกตัวเอง และพยายามทำทุกวิถีทางให้ผู้หญิงที่เขารักยอมตกลงแต่งงานและใช้ชีวิตด้วยกันกับเขาตลอดไป เอิ่ม ใครไม่ชอบคะผู้ชายแบบนี้
สรุป อ่านสนุกเดาได้ตามมาตรฐานลิซ่าค่ะ อ่านจบแล้วจะตัวสั่นอย่างอ่านเรื่องของเซอร์รอสส์ซึ่งเป็นเล่มต่อไปทันที กรี๊สสๆๆๆ ชอบจังผู้ชายมีความหลังเนี่ย

Naked in Death by J.D Robb

ตูนติดกับดักของ Eve and Roarke มาพักนึงแล้วค่ะ ก็ดันหลวมตัวไปอ่านรีวิวนิยายชุดนี้เข้า อุตส่าห์ห้ามใจตัวเองแล้วก็ไม่สำเร็จ ไปขวนขวายมาอ่านจนได้ กับ Romantic Suspense in the future ชุดนี้

คำโปรย
In a world of danger and deception, she walks the line--between seductive passion and scandalous murder...
Eve Dallas is a New York police lieutenant hunting for a ruthless killer. In over ten years on the force, she's seen it all--and knows her survival depends on her instincts. And she's going against every warning telling her not to get involved with Roarke, an Irish billionaire--and a suspect in Eve's murder investigation. But passion and seduction have rules of their own, and it's up to Eve to take a chance in the arms of a man she knows nothing about--except the addictive hunger of needing his touch.

ถือว่าคำโปรยใช้ได้เลยทีเดียว หากใครเคยอ่านเล่มนี้ก็จะรู้ว่านิยายชุด In Death นั้น เกิดขึ้นในโลกอนาคต ในยุคที่ทุกอย่างเป็นอิเล็คโทรนิค ในยุคที่การเดินทางไปไหนมาไหนทั้งง่ายและใช้เวลาสั้นๆ ขนาดไปนอกโลกยังแปปเดียว ในยุคที่การมานั่งพิมพ์คีย์บอร์ดนั้นหาไม่ได้แล้ว หากแต่เหตุฆาตกรรมต่อเนื่องที่ Eve เผชิญ เป็นการฆาตกรรมในยุคศตวรรษที่ยี่สิบ โดยใช้ปืน ซึ่งถูกห้ามใช้ในหมู่ตำรวจไปนานแล้ว
การสะสมปืนอย่างอาวุธสังหารนั้นกลายเป็นงานอดิเรกของมหาเศรษฐี และแน่นอน หนึ่งในผู้ต้องสงสัยจะต้องเป็นผู้ที่มีเงิน และมีอำนาจมากพอจะทำการฆาตกรรมหลานสาวโสเภณีของท่านวุฒิสมาชิค DeBlass แล้วลอยนวลออกไปจากตึกได้ ทุกสิ่งชี้ไปที่ Roarke มหาเศรษฐีหนุ่มหล่อผู้ร่ำรวยและมีอำนาจมหาศาล ผู้ที่สะสมปืน เป็นเจ้าของตึกที่เกิดการฆาตกรรม และแน่นอน เป็นนัดสุดท้ายของผู้ตาย

ใครที่เคยอ่านซีรีย์ชุดนี้ก็จะเห็นว่าคาแรคเตอร์ของอีฟคือจุดเด่นที่สุด วิธีคิดของเธอ ระบบการทำงานของเธอ การตั้งคำถามของเธอ รวมถึงฝันร้ายที่คอยตามหลอกหลอนเธอ ใช่ค่ะ อีฟเป็นผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความหลัง ความหลังที่อีฟพยายามกลบหลุมทับ แต่มันก็จะคอยผุดขึ้นมาเสมอเวลาที่หล่อนไม่รู้สึกตัว

เคมีของอีฟกับโร้คก็เป็นอีกอย่างที่น่าสนใจค่ะ เพราะไม่ใช่แค่อีฟคนเดียวที่มีความหลัง โร้คก็เป็นผู้ชายมีปมเช่นกัน สองคนต่างต่อสู้และหล่อหลอมกล่อมเกลา สร้างตัวตนของตัวเองขึ้นมาตามลำพัง แต่กลับมาพบความดึงดูดในตัวกันและกัน แน่นอนค่ะ ตูนว่าสิ่งที่ยากที่สุดของสองคนนี้คือการต่อสู้กับปีศาจของตัวเอง (To fight with their own demon) กับการที่จะยอมรับให้ใครอีกคนมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต มามีอำนาจเหนือหัวใจ และมาเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เจ็บปวด เคยบอกแล้วค่ะว่าตูนชอบคนมีปม เพราะมันไม่สมบูรณ์แบบ เพราะคนเราทุกคนต่างก็ไม่สมบูรณ์แบบไม่ใช่หรอคะ

ปมการฆาตกรรมของเรื่องนี้ก็น่าติดตามค่ะ ด้วยหลักฐานที่มี อำนาจที่มีของฆาตกร ทำให้อีฟต้องดึงเอาความสามารถทั้งหมดที่มี รวมทั้งสัญชาตญานของตำรวจสืบสวนเข้ามาเป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับคนร้าย พออ่านจบก็แอบรู้สึกหดหู่นิดหน่อยค่ะ มนุษย์เรานี่มันน่ากลัวจริงๆเลย
สรุป เราติดซี่รี่ย์นี้เรียบร้อยค่ะ ตอนนี้กำลังอ่าน Glory In Death อยู่ด้วย ฮือออออ แล้วกองดองชั้นล่ะ

จอมคนขายภรรยา จั้นลู่

ขอตอกย้ำว่าอีกครั้งว่าอิชั้นเป็นแฟนมากกว่ารักตัวจริง ไม่ว่าเรื่องใหม่ขนาดไหนอิชั้นก็ขวนขวายหามาอ่านค่ะ

เรื่องย่อ
หลังจากได้รับพระราชโองการที่สร้างความสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วทั้งเมืองหลวง ตู้หย่าเจี๋ย ไข่มุกงามที่บุรษทุกผู้ปรารถนาอยากได้มาไว้บนฝ่ามือกลับหาได้รู้สึกตกอกตกใจเท่าไร เพราะแม้นางจะได้รับพระราชทานสมรสไปยังแดนไกล แต่อีกฝ่ายก็เป็นถึงโอวหยางจิ้ง อิงอ๋องผู้สร้างชื่อในการรบเมื่อหลายปีก่อน
แต่... ตัวตนของเขาช่างลึกลับนัก ถึงใครๆ จะบอกว่าเขาเป็นวีรบุรุษก็เถอะ นางไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเขา ไม่เคยรู้จักเขา แล้วนางจะแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาเหมาะสมที่จะมาเป็นสามีของนาง

ตู้หย่าเจี๋ยเป็นไข่มุกงามจริงๆค่ะ ฮาต๋าหนี่ คนนี้เป็นคนมีเหตุผล รู้จักคิด มีสติ และเป็นลูกคุณหนูที่ติดดินเหลือเกิน โดยส่วนตัวตูนชื่นชมสตรีที่มีเหตุมีผลพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ค่ะ นางเอกเรื่อนี้เป็นอย่างนั้น หล่อนเป็นลูกคุณหนูของตระกูลใหญ่ ทุกคนรักและเอ็นดู ฉลาดเฉลียวเชี่ยวชาญอ่านเขียน มีวรยุทธ์พอปกป้องตัวเองได้ มีความกล้าหาญชาญชัย ถึงแม้จักรพรรดิมีคำสั่งตูมลงมาให้แต่งงานไปอยู่แดนไกลหล่อนก็ไม่อิดออด เป็นหน้าที่ก็ต้องทำ แล้วตู้หย่าเจี๋ยก็ทำได้ดีเสียด้วย ถึงแม้จะเลือกสามีไม่ได้แต่หล่อนเลือกที่จะรู้จักเขาก่อนแต่งงานได้ นางเอกของเราจึงปลอมเป็นชายเดินทางมาดูหน้าพระเอกก่อนค่ะ หลังจากแต่งงานตู้หย่าเจี๋ยก็ใช้ความฉลาด รู้คิดรู้เหตุผลนี้ประคับประคองชีวิตคู่ จนกระทั่งสถาณการณ์ทำให้สามีอิงอ๋องของหล่อนต้องนำหล่อนออกขายทอดตลาด ค่ะ ชนเผ่านี้มีธรรมเนียมประหลาด หากไม่ต้องการภรรยาคนนี้แล้ว สามีสามารถนำหล่อนออกขายได้ เป็นตูนเรอะ แกขายชั้น แกตาย 555 ถึงได้เป็นแต่นางร้ายอยู่นี่ไง

จะเห็นว่าที่เล่ามาทั้งหมดมีแต่นางเอก ใช่ค่ะ เพราะเธอเด่นจริงอะไรจริงเรื่องนี้ เด่นขนาดพออ่านจบตูนจำได้แต่ชื่อนาง ชื่อพระเอกอิชั้นลืมสิ้น ภาพพระเอกสำหรับตูนค่อนข้างเบลอๆ ผู้เขียนบรรยายว่าเป็นชายหนุ่มที่เชี่ยวชาญการรบ โอเค รู้ละ แต่ไม่เห็นภาพหรอกนะ เพราะเค้าเลือกจะไม่บรรยายฉากรบซักฉาก มีแต่ฉากรัก ซึ่งจำได้ว่าฮีแอะอะหื่นใส่นางเอก ฮิ้ววว แต่ก็พอเห็นภาพนะคะว่าอิงอ๋องคนนี้ไม่โง่ ตอนนางเอกปลอมตัวมาก็รู้ ตอนจำเป็นต้องขายนางเอกก็แนบเนียนซะจนนางเอกเสียใจจริงๆ แต่ก็รักและคิดถึงนางจนต้องรีบแอบไปปรับความเข้าใจ โอเคค่ะ ถือว่าใช้ได้สำหรับตูน แต่จำชื่อไม่ได้นะยะนาย ต้องเด่นกว่านี้อีกนีสนุง

ปมเรื่องนี้มีตั้งแต่เรื่องการเมือง วัฒนธรรมชีวิตคู่ที่แตกต่างของพระนาง ชาติกำเนิดของพระเอก และการลอบโจมตีเอาชีวิตนางเอกค่ะ ปมทุกอย่างล้วนมีที่มาที่ไป และแก้ไขได้ง่ายมาก เหมาะสำหรับนิยายเล่มบางๆแบบนี้

สรุปแล้ว เรื่องนี้อ่านได้โอเคค่ะ สำหรับตูน

สาวสุดเซอร์กับโปรแกรมเมอร์ปากร้าย สิรินดา

บอกตรงนี้เลยค่ะว่าตูนโตมากับสำนักพิมพ์แจ่มใส คลุกคลีกันมาตั้งแต่สมัยม.ต้น เริ่มอ่านนิยายใหม่ๆ และหนังสือนิยายเรื่องแรกที่ซื้อด้วยเงินเก็บของตัวเองก็คือเรื่องนี้ค่ะ ความรู้สึกดีๆที่เรียกว่ารักฉบับพิเศษ สาวสุดเซอร์กับโปรแกรมเมอร์ปากร้าย

เรื่องย่อ
ผมชื่อคีตา เป็นนักเขียนโปรแกรมมือหนึ่งของบริษัท สิ่งที่ผมชอบก็พวกความไฮเทค เทคโนโลยีไง ผู้หญิงในสเป็กผมต้องสวย บอบบาง อ่อนหวาน ส่วนผู้หญิงที่ผมไม่คิดจะเอาเป็นแฟนน่ะเหรอ ก็พวกห้าวๆ พูดจาโผงผาง ทำตัวเลียนแบบผู้ชาย ไม่ใช่ว่าพวกเธอไม่ดีนะ เพียงแต่ไม่ใช่แบบที่ผมชอบเท่านั้นล่ะ
อะไรนะ คุณบอกว่าผมจะต้องแต่งงานอยู่ร่วมบ้านกับผู้หญิงห้าวๆ เซอร์ๆ งั้นเหรอ ไม่มีทาง บอกได้เลยว่าไม่มีทาง ให้ตายสิ!
ฉันชื่อนรี เป็นผู้หญิงที่ออกจะห้าวๆ ซักหน่อย แล้วไง ห้าวก็ไม่หนักอะไรใครนี่ ก็ฉันเป็นผู้หญิงยุคใหม่ พึ่งพาตัวเอง ยืนได้บนลำแข้งของตัวเอง ผู้หญิงอ่อนแอที่ต้องคอยให้ผู้ชายปกป้องต่างหากที่ฉันว่าน้ำเน่าสิ้นดี สิ่งที่ฉันชอบเหรอ การวาดรูป ศิลปะ ส่วนสิ่งที่เกลียดก็เทคโนโลยีไง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
อ้อ อีกอย่างที่เกลียด ก็พวกผู้ชายหน้าตาดีแต่ขี้เก๊ก แต่งตัวเนี้ยบ มั่นใจในตัวเองเกินเหตุ ว่าไงนะ ถ้าฉันต้องแต่งงานกับผู้ชายแบบนั้นน่ะเหรอ ไม่มีทาง ขอตายซะดีกว่า!

จำได้ว่าตอนอ่านจบ ชอบอารมณ์ตัวเองตอนนั้นมาก หลังๆพออ่านนิยายมากเข้าก็เริ่มเข้าใจว่าความรู้สึกอิ่มเอมแบบนั้นมักเกิดกับตัวเองตอนอ่านนิยายที่ไม่มีตัวร้ายค่ะ ไม่ง่ายนะคะที่จะอ่านนิยายที่เนื้อเรื่องหลักๆดำเนินไปด้วยความคิดของตัวละครแค่สองตัวที่มีรายละเอียดมากพอโดยที่ผู้แต่งไม่ต้องจับเอาความคิดร้ายๆใส่ลงมาในความสัมพันธุ์แล้วสนุก

ความสัมพันธุ์ของคีตาและนรีเป็นไปง่ายๆค่ะ สองคนอังเอิญเจอกัน เข้าใจผิดกัน ได้อยู่ร่วมชายคาเดียวกันเป็นระยะเวลาสั้นๆ พอกลับมาก็บังเอิญนางเอกรับงานที่พระเอกเป็นลูกค้า นางเอกเริ่มชอบพระเอก แต่ติดที่ชายหนุ่มไปรักคนอื่นอยู่ นรีไม่ได้ฟูมฟายค่ะ มีเหตุผล มีความพยายามจะตัดใจ แต่ก็มีดันมีโอกาสได้รับรู้ว่าหญิงสาวที่ชายหนุ่มหมายปองนั้นนอกใจ มีเรื่องบังเอิญได้ไปเฝ้าตอนพระเอกป่วย แล้วมีโอกาสได้ให้กำลังใจอย่างรุนแรงตอนที่ชายหนุ่มอกหัก เริ่มรู้สึกดีๆต่อกันมาจนถึงค่อนเล่มจึงได้มีเหตุให้เข้าใจกันไปว่าแต่งงานกันจะเป็นผลดีกว่า ก็เลยแต่งกัน เรื่องราวดำเนินมาเรื่อยๆ แบบที่อ่านถ้าอ่านเนื้อเรื่องแล้วเทียบกับปกหลังนี่จะต้องเลิกคิ้วข้างนึง หื้มม นี่มันเรื่องเดียวกันรึเปล่าเนี่ย ทำไมพระนางมันไม่เห็นอารมณ์รุนแรงแบบไม่แต่งๆ จะตายๆ อะไรเหมือนปกหลังเลยนิ

เพราะเอาเข้าจริงแล้วอารมณ์ของสองคนนี้แลดูเงียบๆ เรื่อยๆ ไม่มีบทสนทนาอะไรกันมาก เป็นประเภทมองตากันก็เข้าใจ ซึ่งเป็นคุณสมบัติแบบแรไอเท็ม หาได้ยากยิ่งนักในโลกแห่งความเป็นจริง ที่ตูนเจอคือคู่แต่งงานที่อยู่กันมาจะสามสิบปีอยู่ละ แต่เรื่องเดียวกันนี่เข้าใจกันไปคนละแบบเลยทีเดียว (พ่อกะแม่แหละ หงุดหงิดใส่กันตลอดเว ต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายพูดไม่รู้เรื่อง)

ความหวานของพระนางในเรื่องนี้สำหรับตูนถือว่าอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ค่ะ คือมีปริมาณน้อย แต่ถ้าพูดเรื่องคุณภาพก็ถือว่าใช้ได้ ชอบพวกง้อแล้วปล้ำอ่ะ อร๊ายย เขิล

สาวสุดเซอร์กับโปรแกรมเมอร์ปากร้ายเล่มนี้เป็นแค่ Top of the Iceberg เท่านั้นค่ะ แค่จุดเริ่มต้นเล็กๆในความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างตูนกับแจ่มใส พอเวลาผันผ่าน ความสัมพันธ์พัฒนา จนกระทั่งวันนึงได้มีโอกาสเหยียบย่างเข้าไปในครอบครัวหลังนั้น .... โอ้มาย ความทรงจำที่จะไม่มีวันลืมเลยทีเดียว


หลงเงานาง ชุดจักรพรรดิรำพึง อวี๋ฉิง (Yu Qing)

ตูนเป็นแฟนพันธุ์แท้มากกว่ารักค่ะ เรียกว่าเล่มเดี่ยวๆที่ไม่ได้ออกเป็นชุดมีแค่สองสามเล่มเท่านั้นที่ไม่ได้มาอยู่บนตู้ หึหึ ตูนเป็นแฟนพันธุ์แท้นอกจากเพราะตัวเองชอบ Historical Romance ไม่ว่าของชาตืไหนก็ตามอยู่แล้ว แม่ยังชอบเรื่องจีนโบราณอีกด้วย (สรุปคือชีเห็นไม่ได้ จิกให้หนูซื้อตลอด แม่นะแม่ ไม่มีห้ามปราม)

ใครไม่เคยอ่านแนะนำว่าอย่าอ่านต่อจากนี้ไปค่ะ ตูนสปอล์ยแหลก

เรื่องย่อ
ว่าไปแล้วนางก็เปรียบเสมือนนกกาในฝูงหงส์
แม้จะงดงาม แต่กลับไม่ตระการตาตรึงใจผู้คน
แม้จะมุมานะพยายามสุดกำลัง แต่ก็ยังห่างไกลจากพี่น้องทั้งบู๊บุ๋น
ตอกย้ำคำทำนายที่ว่าชะตาชีวิตของนางช่างสวัสดิภาพราบเรียบ
ทำให้นางไม่แคล้วต้องทนรับการเหยียดหยามดูถูกอย่างไร้ค่าในแผ่นดินบ้านเกิด

จะมีก็เพียง ‘เขา’ คนเดียวที่ไม่เคยมองนางด้วยสายตาดูแคลน
แม้ลึกๆ ในใจเขาจะมองนางเป็นเพียงหมากในมือที่คิดใช้แล้วทิ้งนางก็ยินยอมพร้อมใจขอพลีตนส่งเขาไปสู่จุดสูงสุดเหนือคนนับหมื่นแสน

คิดว่าเหตุผลหลักที่แฟนมากกว่ารักส่วนใหญ่ติดตามก็เพราะว่านิยายแนวนี้พระเอกมักมีมาดเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ใต้หล้าไม่มีใครเทียมไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง มีอำนาจล้นเหลือ มีเงินไม่ขาดมือ หากแต่เมื่อเขาเหล่านั้นตกหลุมรัก มันมักจะเป็นรักที่ไม่มีข้อแม้ รักที่เห็นนางเอกมาก่อนชีวิตตัวเอง รักหมดจิตรหมดใจ ช่างเป็นรักสวยงามที่หาได้ยากยิ่งในชีวิตจริง

แต่สำหรับหลี่หญงจื้อ ในชาติที่เขาเป็นหลี่หญงจื้อ องค์รัชทายาทแห้งต้าเว่ย แผ่นดินมาเป็นที่หนึ่ง และสีต๋า มเหสี ที่เค้าใช้เล่ห์กลให้หล่อนยอมตกลงแต่งงานด้วย มาเป็นอันดับสองค่ะ

ความรู้สึกระหว่างอ่านหนึ่งเล่มครึ่งผ่านไปตูนค่อนข้างสงสารพระนางในต่างมุมกันไป หลี่หญงจื้อติดอยู่ในกรงที่ทั้งแม่ทั้งอาจารย์ครอบงำทางความคิดด้วยความตาย เด็กขนาดเขาเห็นคนที่รักตายเพื่อส่งตัวเองขึ้นไปยืนจุดสูงสุดของแผ่นดิน ไม่ยากเลยค่ะที่จะหล่อหลอมให้เขาตั้งปณิธานชีวิตให้มุ่งไปทางนั้น ถ้าพูดถึงการควบคุมจิตรใจแล้ว พระเอกคนนี้ควบคุมตัวเองได้จนน่ากลัว เค้าไม่เปิดเผยทั้งจุดเด่นและจุดด้อยระหว่างการตกเป็นเชลยต่างแดนเลยแม่แต่นิด ปกปิดความรู้สึกจนจำไม่ได้แล้วว่าการเชื่อใจคนสักคนต้องทำอย่างไร ทุกวินาทีชีวิตมีไว้เพื่อการวางแผน คิดแต่ว่าจะใช้คนตรงหน้าอย่างไรเพื่อทำให้ตนเองไปสู่จุดที่ต้องการ เขาหลอกใช้แม่กระทั่งนางเอก

สีต๋าไม่ใช่นนางเอกแบบดาวพระศุกร์ หากอยู่บ้านอื่นก็คงเป็นสตรีที่งามเด่นเป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศตระกูล แต่หล่อนเลือกไม่ได้ ดันมาเกิดในตระกูลสี แหน่งซีหนาน ทั้งพี่ทั้งน้องมีพรสววรค์ที่ฟ้าส่งมาให้ สีต๋าจึงกลายเป็นสตรีธรรมดา ต่ำกว่าความต้องการยอดมนุษย์ของครอบครัว ตั้งแต่เด็กหล่อนถูกหลอกใช้เป็นสะพานให้คนอื่นๆเหยียบข้ามเพื่อให้ไปถึงพี่น้องจึงมีปมนี้อยู่ในจิตใจ สำหรับหล่อน มีแต่หลี่หญงจื้อเท่านั้นที่ไม่เคยแสดงกิริยาดูแคลน เต็มไปด้วยความสุภาพ แถมบางครั้งเมื่อหล่อนตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเขายังยื่นมือเข้าช่วย ไม่ยากเลยที่จะทำให้สีต๋ามอบหัวใจให้เขาไปทั้งดวง แต่นางไม่โง่ เวลาไม่นานเท่านั้นสีต๋าก็รู้ว่าหลี่หญงจื้อไม่ได้ไม่หลอกใช้ แต่เขาเก่งจนตบตาหล่อนได้ต่างหาก แต่กว่าหล่อนจะเข้าใจ ก็ได้แต่รู้ว่าเค้าหลอกแต่เต็มใจให้หลอกแล้ว

กว่าหลี่หญงจื้อจะยอมรับกับทั้งตัวเองทั้งสีต๋า ว่ารัก ก็ปาเข้าไปค่อนเล่มสอง เกือบจะสายเกินไปเสียแล้ว

เรื่องนี้แม่ Approved ว่าสนุกดีค่ะ แต่ไม่รู้ทำไม ตูนอ่านแล้วทิ้งรสขมๆไว้ในคอ คงเป็นเพราะช่วงสุดท้ายที่บรรยายให้เห็นว่าเป็นช่วงคืนปีใหม่ หนึ่งในเวลาไม่นานที่สองคนนี้จะได้อยู่กันตามลำพัง เป็นตัวของตัวเอง ตอนที่หลี่หญงจื้อนอนหนุนตักสีต๋านางเอกที่คิดมาเสมอว่าหากได้เกิดอีกครั้งจะไม่ขอพบคนที่รู้จักในชาตินี้อีกเลย บอกว่าเปลี่ยนใจแล้ว ชาติหน้าอยากเกิดมาเจอและรักพระเอกอีกครั้ง หลี่หญงจื้อก็บอกด้วยความรู้สึกที่ออกมาจากหัวใจว่า ชาติหน้า ข้าจะรักเจ้าอย่างหมดหัวใจ อย่างที่ไม่ให้มีแผ่นดินมาขวางกั้น

ไม่ใช่รักไม่สมหวัง แต่ชีวิตคนเราบางคน ความรักก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญอันดับแรกในชีวิต ใช่มั๊ยคะ

วิหคเหินฟ้า วลัย นวาระ

ถ้าถามว่าเลือดรักการอ่านมาจากใคร ต้องบอกกันตรงนี้เลยว่ามาจากทั้งพ่อทั้งแม่ สองคนนั้นเค้าเดินเหยียบเท้ากันในร้านหนังสือวันนั้น จนลูกสามวันนี้ แม่เล่าว่าชีไปซื้อนิยาย ส่วนพ่อแวะดูหนังสือพระก่อนเข้าโรงเรียน ตอนสายเข้าห้องเรียนก็ได้รู้ว่าคนที่เหยียบเท้ากันเมื่อเช้า กลายมาเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนใหม่นี่เอง
คือ ฟังครั้งแรกก็โรแมนติกดี หลังๆชักหมั่นไส้ ชิส์

ตูนออกจะได้รับมรดกทางฝั่งแม่มามากกว่า สมัยเรียนแม่เป็นแฟนตัวยงของ วลัย นวาระ กี่เล่มๆชีซื้อหมด ส่วนใหญ่เป็นปกอ่อน แล้วเล่มไหนอ่านแล้วสนุกค่อยกลับไปซื้อเป็นปกแข็งมาเก็บ วิหคเหินฟ้าของวลัย นวาระเล่มนี้ ตกทอดมาถึงตูนในรูปแบบปกแข็งค่ะ

เรื่องย่อ
"ผมไม่ทราบว่าจะมาได้อีกเมื่อไหร่
แต่จำไว้นะ เพ็ญลำเพา
ถ้าคุณมีเรื่องเดือดร้อนหรือคับแค้นใจอย่างไรก็ตาม
ไม่ต้องวิตกอะไรทั้งนั้น ผมจะมาหาคุณทันที"
"คุณจะรู้ได้อย่างไรค่ะ?" เพ็ญลำเพาฉงน
"ผมรู้ซีน่า" เขาตอบยิ้มๆ
"เวลาไม่คอยท่า ผมต้องรีบไป ขอกุหลาบผมดอกหนึ่งได้มั้ย?"
เพ็ญลำเพาหน้าเรื่อ ดึงกุหลาบที่เอวส่งให้ทั้งช่อ
เขายกดอกกุหลาบแรกแย้มสามดอกนั้น ขึ้นจรดริมฝีปาก
แฮปปี้ เบิร์ธเดย์ ซินเดอเรลลาที่รัก"
"ขอบคุณค่ะ ซอร์โร"
"คิดถึงผมบ้าง"
"ค่ะ ฉันจะคิดถึงคุณ"
"จนกว่าเราจะพบกันอีก"
แล้วเพ็ญลำเพาก็พบตัวเองยืนอยู่เดียวดายบนลานเฉลียง
เด็กสาวเท้าแขนฉะโงกตัวออกไป
มองสุมทุมพุ่มไม้ที่เห็นตะคุ่มอยู่ในสวนเบื้องล่าง แต่ไม่มีอะไรไหวติงเลย
มีแต่เสียงห้าวทุ้มลอยแผ่วเหมือนแว่วมากับสายลม
"ผมรักคุณ เพ็ญลำเพา"

ถ้าตูนอ่านเรื่องย่อบนปกหลังก่อน ก็คงมองข้ามนิยายเรื่องนี้ไปแน่ๆ เพราะตูนไม่ชอบเรื่องราวหวานๆที่พออ่านแล้วทิ้งรสชาติเอียนๆไว้ในปาก แต่เราดันเปิดบทที่หนึ่งอ่านก่อน แล้วมันก็น่าสนใจมากพอจะทำให้เราอ่านจนจบ สปอล์ยนะคะ

นิยายเรื่องนี้เริ่มต้นด้วยการเล่าเรื่องพี่น้องฝาแฝดชายหญิงสองคนและผู้ติดตามหนึ่งคนที่กำลังเดินทางเข้าเมืองกรุงเพื่อไปเยี่ยมเยียนคุณป้า บังเอิญได้พักโรงแรมริมทางแห่งหนึ่ง แฝดหญิงได้ยินเสียงเหมือนกำลังขัดขืนของหญิงสาวห้องข้างๆ เห็นท่าไม่ดีสองพี่น้องจึงวางแผนช่วยหญิงสาวคนนั้นออกมา ปฏิบัติการเป็นไปด้วยความสำเร็จ หญิงสาวที่ถูกช่วยเหลือรู้สึกขอบคุณมาก สักพักชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่นัยว่าเป็นคู่หมายของสาวเจ้าก็มาถึงโรงแรมที่ว่า พอรู้ว่าสองฝาแฝดนี้ออกโรงปกป้องสาวน้อยเอาไว้ก็รู้สึกถูกชะตา ตัวเอกสี่คนปรากฏตัวขึ้นมาและเริ่มต้นความสัมพันธ์ แต่เรื่องราวมันน่าสนใจที่สุดก็ตรงที่ฝาแฝดชายหญิงที่ว่านั้น แสดงเป็นแฝดสลับเพศกัน
แฝดคนพี่ กานดา เป็นหญิงสาวร่างสูงใหญ่อายุราว 25 ปี ที่ปลอมตัวเป็น ภารดา ชายหนุ่มวัย 20 ผู้บรรยายให้ภาพภารดาว่าเป็นชายหนุ่มหุ่นสูงเพรียว หน้าขาวๆ ดวงตากลม ใหญ่ ฉายแววท่าทางใจเย็น ผิดกับน้องสาวฝาแฝดที่ลื่นปรู๊ดปร๊าด
เสนีย์ แฝดคนน้อง ชายหนุ่มร่างเล็กที่ได้เชื้อพ่อมาเต็มๆต้องแสดงบทบาทเป็น ภคินี สาวสังคมแต่งตัวเปรี๊ยวขัดฟัน ชอบชมักชม้ายชายตา เป็นสาวสังคมที่จริตจก้าน(เขียนถูกป่าวเนี่ย)เต็มตัว

แค่คาแรคเตอร์ของสองพี่น้องนี่ก็โดดเด่นกินขาดกระจุยแล้วค่ะ แต่ไม่ค่ะ ผู้แต่งยังเพิ่มเอาพระเอก ผู้ที่สำหรับตูนแล้ว ได้รับรางวัลคาแรคเตอร์เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นและน่าสนใจตลอดการ (Most unique character Award) เข้ามาเสริมไว้ด้วย
ภาคิไนย เป็นผู้ชายที่น่าสนใจมากในวงสังคม เขารวย เป็นเชื้อเจ้า ลักษณะทางกายภาพเป็นคนสูงใหญ่มาก ภคินีครั้งหนึ่งเคยเย้าว่าเป็นยักษ์ปักหลั่น แต่ที่สำคัญคือ ภาคิไนยฉลาดมาก ผู้แต่งให้ภาพว่าดวงตาเขาจะหรี่ปรือลงครึ่งๆ ลักษณะเหมือนจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แต่เอาเข้าจริงแล้ว ทุกอย่างไม่มีทางหลุดรอดสายตาเค้าไปได้ ทุกอย่างจริงๆ กานดานางเอกของเราเคยรำพันกับตัวเองว่าผู้ชายคนนี้เหมือนแมวนอนหวด ดูเฉยๆ เอิ่อยๆ แต่อย่าได้ไปแหย่เชียว แถมยังท่าทางฉลาดเป็นกรดอีก กานดาคิดไม่ผิดหรอกค่ะ ภาคิไนยของเราฉลาดมากจนกานดาแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เขาก็รู้ความจริงเข้าเสียแล้ว
จุดอ่อนของอิชั้นเลยค่ะ ผู้ชายฉลาดเนี่ย

ความสัมพันธ์ของตัวเอกในเรื่องนี้แยกเป็นสองคู่ค่ะ กานดากับภาคิไนย และเสนีย์กับเพ็ญลำเพา สาวน้อยที่สองพี่น้องวางแผนช่วยกันออกมาได้ในตอนแรก ตูนข้ามคาแรคเตอร์เพ็ญลำเพาไปเลยนะคะ เพราะตูนไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ค่ะ เข้าใจว่าเป็นลูกคุณหนู แต่ตูนทนเด็กโง่ๆและฝันเฝื้องโรแมนติกไม่ได้จริงๆ เอะอะจะหนีไปจดทะเบียนๆอยู่นั่นแหละ เป็นน้องเป็นนุ่งจะจับมาตีๆๆๆๆแล้วด่าใส่หน้าเลย รำคาน!!

สำหรับตูน ความน่าสนใจของคู่กานดาและภาคิไนยนั้นตีห่างไปหลายขุม เพราะพระเอกฉลาด นางเอกไม่โง่แถมยังใจเย็น มีสถานการณ์อะไรพุ่งใส่ก็รับมือย่างสงบ ทำเอาพระเอกเราตกหลุมจังเบ้อเร่ม แต่ฮีไม่แสดงท่าทีอะไรนะคะ คอยปกป้องอยู่ใกล้ๆอย่างเงียบๆ แถมตอนที่ตัดสินใจแน่แล้วว่าถึงเวลา ก็บอกมันหมดเลยความจริงตามสเตปเทพ ว่า หนึ่ง ผมรู้แล้วนะว่าคุณเป็นผู้หญิง สอง ผมชอบผู้หญิงแบบคุณ และสาม เพราะงั้นเราแต่งงานกันเถอะ โอ้แม่เจ้า ฮีน้ำนิ่งไหลลึกเว่อร์อ่ะ ปลื้ม แล้วหลังจากนั้นภาคิไนยก็ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเวลาอยู่กันสองคน คอยแซะทุกวันว่าอยากพาหนี ของๆผมก็เป็นของๆคุณ โอ้ยยย ใครไม่รักผู้ชายแบบนี้ถามจริง แล้วเมื่อถึงจุดที่ชายหนุ่มพาหญิงสาวหนีไปได้จริง เค้าก็ทำอย่างเด็ดขาด เอาแบบที่ไม้ให้ทั้งน้องชายทั้งพ่อของสาวเจ้ามาลากหล่อนตะลอนๆไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำได้อีก ภาคิไนยจับกานดาจดทะเบียนสมรสทันที
ตามประสาค่ะ จบกันแบบ Happy Ending แล้วพออ่านไปถึงหน้าสุดท้าย เราก็จะได้รู้ว่าทำไมชื่อเรื่องถึงเป็นวิหคเหินฟ้า

เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องต้นแบบที่ความหลากหลายของคาแรคเตอร์ไม่ข่มพลวัตรของสถานการณ์ในเรื่อง ทำให้พออ่านๆก็ เออ ใช่ สถานการณ์แบบนี้ถ้าเป็นภาคิไนยก็ต้องทำแบบนี้แหละถูกแล้ว (ไม่ใช่บางเรื่องอ่านๆไปแล้วอ้าว ไหนว่าพระเอกฉลาดทำไมมันทำตัวโง่ๆวะ) ถือเป็นเล่มที่ควรค่าแก่การเสพเลยทีเดียว
ใครเคยอ่านแล้วบ้างคะ เห็นต่างจากตูนบ้างหรือไม่?

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

กองดองที่ไม่มีวันหมด

งานหนังสือก็ไปจนผ่านมาจะสองเดือนละ อิชั้นยังประสบปัญหาอ่านไม่ทันเสียที กองที่ไปสอยมา อยู่ยังไงก็อยู่อย่างงั้น ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหนเลย จนทั้งแม่ทั้งพี่อ่านนำหน้า เร่งยิกๆให้ปิดเกมส์ Hunger Games สามเล่มเสียที สองคนนั้นอยากเม้าจะแย่แล้ว (ตูนสั่งห้ามพูดถึงจนกว่าอิชั้นจะอ่านจบ กันการสปอล์ยแหลกลาญของสองคนนี้) แถมทุกวันนี้ย้ายที่ทำงานใหม่ จากที่เคยอดอยากปากแห้งมาอยู่ที่ที่เจริญแล้ว ใต้ตึกถึงขนาดมีร้านหนังสือชื่อดัง แล้วจะเหลือเรอะ สองเดือนเท่านั้นอิชั้นรู้ถึงขนาดว่าพนักงานคนใดเข้ากะไหน ชอบคนไหนทำงานดีก็เดินลงไปคุยด้วยเวลาว่าง แล้วก็เสียทรัพย์สั่งหนังสือมากองเพิ่มทุกสามวัน TT..TT จนแม่ถึงขนาดเปรย “หร่อนต้องลาพักร้อนสักเดือนแหละถึงจะอ่านหมด” แม่ไม่เข้าใจหนู ฮืออออ

อันความจริงแล้วตูนก็มีวันหย่งวันหยุดตามที่รัฐบาลกำหนดนะคะ แต่กร๊าฟชีวิตช่วงนี้เป็นยังไงไม่รู้ ทุกอย่างประดังประเด คนนั้นก็อยากให้พาไปที่นั่น คนนี้ก็อยากให้ไปด้วยกันที่นี่ ขึ้นเหนือลงใต้กันแทบทุกอาทิตย์ ไอความต้องการที่แท้จริงของเราไม่เห็นมีใครสน ฮือ หนูแค่อยากนอนเปิดแอร์อ่านนิยายเฉยๆเองง่ะ แถมโชคชะตายังเล่นตลกให้เราต้องไปผ่าตัดข้อมือ ดีตรงที่มีคนเห็นใจ ปล่อยให้นอนพักอยู่บ้านบ้าง แต่บ่องตงตอนนี้ ถึงอยู่บ้านเฉยๆหนูก็อ่านหนังสือลำบากแล้วค่า มีมืออยู่ข้างเดียวเอ๊งงง ฮืออออ

เรื่องราวความดราม่าของชีวิตดำเนินมาถึงตอนที่มือข้างที่ผ่าของอิชั้นเริ่มจะขยับทับหน้าหนังสือได้บ้าง ก็เลยเริ่มภารกิจจัดการลดขนาดกองดอง ก็ดันบังเอิญได้ไปอ่านรีวิวนิยาย In Death Series ของ J.D Robb ในเว็บแห่งหนึ่ง เห็นเป็นแนวสืบสวนสอบสวน เข้ากับรสนิยมของเรา (I’m addicted to CSI, The Mentalist, The Closer and NCIS Series, Real Big fan) ประกอบกับเพื่อนชาวอินเดียยื่นหนังสือสองเล่มในซีรี่ยส์นี้ให้เราแบกหนักๆกลับมาด้วย ตูนเลยลองหาเล่มแรกมาอ่านดู นั่นคือ “Naked in Death” จุดเริ่มต้นความรักของ Eve และ Roarke อุแม่เจ้าเท่านั้นแหละ รู้เลยว่าชีวิตต่อจากนี้อีกสักสี่ห้าเดือนจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ประเด็นคือ แล้วกองที่ดองไว้ เมื่อไหร่จะหมด????

ลิสดองเพิ่มเติม (นอกไปจากคราวสัปดาห์หนังสือ)
In Death Series by J.D Robb
1. Naked in Death
2. Glory in Death
3. Immortal in Death
4. Rapture in Death
5. Ceremony in Death
6. Vengeance in Death
7. Holiday in Death
8. Midnight in Death (in the anthology "Silent Night")
9. Conspiracy in Death
10. Loyalty in Death
11. Witness in Death
12. Judgment in Death
13. Betrayal in Death
14. Interlude in Death (in the anthology "Out of this World")
15. Seduction in Death
16. Reunion in Death
17. Purity in Death
18. Portrait in Death
19. Imitation in Death
20. Remember When (features "Big Jack" & "Hot Rocks" - re-published as 2 novellas Feb 2010)
21. Divided in Death
22. Visions in Death
23. Survivor in Death
24. Origin in Death
25. Memory in Death
26. Haunted in Death (in the anthology "Bump in the Night")
27. Born in Death
28. Innocent in Death
29. Eternity in Death (in the anthology "Dead of Night")
30. Creation in Death
31. Strangers in Death
32. Ritual in Death (in the anthology "Suite 606")
33. Salvation in Death
34. Promises in Death
35. Kindred in Death
36. Missing in Death (in the anthology "The Lost")
37. Fantasy in Death
38. Indulgence in Death
39. Possession in Death (in the anthology "The Other Side")
40. Treachery in Death
41. New York to Dallas
42. Chaos in Death (in the anthology "The Unquiet")
43. Celebrity in Death
44. Delusion in Death
45. Calculated in Death
46. Thankless in Death (September 2013)
47. The Raven Prince by Elizabeth Hoyt
48. The Madness of Lord Ian Mackenzie by Jenifer Ashley
49. Mr. Impossible (Sequel of Miss Wonderful) by Loretta Chase
50. Not quite a Husband by Sherry Thomas
51. The Bride by Julie Garwood
52. Match me it you can by SEP (in Chicago star set)
53. Sweet Love, Survive by Susan Johnson
54. Magic of You by Johanna Lindsey
55. Saving Grace by Julie Garwood
56. Have Mercy by Susan Donovan (In Hook if you like real man)
57. The Greek’s Million Dollar baby bargain by Julia James
58. Heart of fire by Linda Howard
59. Wife by Wednesday by Catherine Bybee
60. Backstage Pass by Olivia Cunning
61. The Iron Duke by Meljean Brook The Protector set by Beverly Barton
62. Paladin’s Women
63. Roarke’s Wife
64. A Man like Morgan Kane
65. Gabriel Hawk’s Women
66. When he was Bad by Shelly Laurenston and Cynthia Eden (Miss Congeniality) (Wicked Ways)
67. Archangel’s Kiss by Nalini Sigh
68. The Best in him by Shelly Laurenston The Vows Set by Norah Robert
69. Vision in White Magnus Pack
70. Pack Challenge
71. Go Fetch!
72. Dangerous Secret by Lisa Marie Rice
73. Any Wicked things by Magaret Rowe
74. The Duke’s Perfect wife by Jenifer Ashley
75. Grand Passion by Jayne Ann Krentz
76. The Famous Heroine by Mary Balogh
77. Extreme Exposure by Pamela Clare
78. Hard Evidence by Pamela Clare
79. A Secret Affair by Mary Balogh
80. At his night by Sherry Thomas
81. “Redstone Incorporated Set” by Justine Davis
- Dark Reunion
- Deadly Temptation
- Her Best friend’s Husband
- Backstreet Hero
- The Best Revenge
82. Skin Game by Ava Gray
83. The Man Must Marry by Janet Chapman
84. The Sherbrooke Bride by Catherine Caulter